จำช่วงเวลานั้นเมื่อคุณเรียนรู้ว่าคุณตีความเนื้อเพลงผิดไปจากเพลง The Every Breath You Take ที่คุณตี ตำรวจ ตั้งแต่คุณได้ยินมา? สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นเพลงรักหวานโรแมนติกจริง ๆ แล้วเป็นเพลงบัลลาดเกี่ยวกับการสะกดรอยตามทันใดนั้นคุณก็ไม่เคยเห็น Sting แบบเดิมอีกเลย ที่จริงแล้วเพลงฮิตมากมายที่คุณเคยได้ยินมาหลายสิบครั้งมีความหมายที่คุณพลาดไป มันเป็นความจริง! เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ศิลปินผู้ชื่นชอบชาร์ตยอดนิยมหลายคนหลอกคุณ ดังนั้นถึงเวลาที่จะฉลาดเกี่ยวกับเพลงทั้ง 20 เพลงที่มีข้อความลับที่คุณอาจไม่รู้ และสำหรับความหมายที่ซ่อนอยู่ให้ตรวจสอบ 30 ข้อความลับที่ซ่อนอยู่ในโลโก้ยอดนิยม
1 "In the Air Tonight" โดย Phil Collins
เดี่ยวเดี่ยวครั้งแรก ของฟิลคอลลินส์ "In the Air Tonight" มีการพูดคนเดียวที่น่ารำคาญเกี่ยวกับสิ่งที่เสียงเหมือนแปรงของนักร้องกับผู้ชายคนหนึ่งที่ปฏิเสธที่จะช่วยคนที่จมน้ำ แต่คอลลินส์เปิดเผยว่าเพลงฮิตตัวแรกของเขาคือเรื่องอื่น
ในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซีคอลลินส์สารภาพว่า 2524 เพลงเป็นครุ่นคิดดูหย่าจากภรรยาคนแรกของเขา “ เห็นได้ชัดว่ามันอยู่ในความโกรธมันเป็นด้านที่โกรธหรือด้านที่ขมขื่นของการพลัดพราก” เขากล่าว “ อะไรทำให้เรื่องตลกยิ่งกว่าเดิมคือเมื่อฉันได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อหลายปีก่อนโดยเฉพาะในอเมริกาที่มีคนมาหาฉันและพูดว่า 'คุณเห็นใครบางคนจมน้ำจริงหรือ?' ฉันพูดว่า 'ไม่ผิด'
2 "Slide" โดย Goo Goo Dolls
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1998 หลายคนเชื่อว่าเพลงยุค 90 ที่โด่งดังของ Goo Goo Dolls เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก แต่ในตอนปี 2002 ของ นักเล่าเรื่องของ VH1 นักร้องนำ Johnny Rzeznik เปิดเผยความหมายที่แท้จริงของเพลง - และมันมืดกว่าทุกคนที่คาดการณ์ไว้
นักร้องนำกล่าวว่า "สไลด์" เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "เด็กวัยรุ่นสองคนนี้และแฟนสาวกำลังตั้งครรภ์และพวกเขาพยายามที่จะตัดสินใจ… ว่าเธอควรจะทำแท้งหรือว่าพวกเขาควรจะแต่งงาน… และฉันไม่คิดมาก ผู้คนได้รับสิ่งนั้น " ความหมายลับของเพลงนั้นค่อนข้างชัดเจนเมื่อคุณดูเนื้อเพลงเช่น "คุณไม่รักชีวิตที่คุณฆ่าหรือไม่ / นักบวชอยู่ในโทรศัพท์ / พ่อของคุณกระแทกกำแพง / คุณไม่ชอบคุณเลย"
3 "พลุ" โดย Katy Perry
Shutterstock
"พลุ" โดย Katy Perry ได้กลายเป็นเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010 แต่จากการที่ป๊อปสตาร์สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจคือความตายของเธอเองที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ "โดยพื้นฐานแล้วฉันมีความคิดที่น่ากลัวมาก" เพอร์รีบอกกับ บิลบอร์ด ในปี 2010 "เมื่อฉันผ่านไปฉันต้องการที่จะใส่พลุและยิงข้ามท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรซานตาบาร์บาร่าเป็นไชโยครั้งสุดท้าย"
เพอร์รี่เสริมว่าเธอชอบความจริงที่ว่าดอกไม้ไฟทำให้ฝูงชน "โอ้" และ "อ่า" "ฉันเดาว่าการทำให้คนเป็น 'ahhh' เป็นเหมือนคำขวัญของฉัน" เธอกล่าว
4 "ลูซี่ในท้องฟ้ากับเพชร" โดย The Beatles
ภาพผ่าน Wikimedia Commons
แม้ว่าตัวอักษรตัวแรกของแต่ละคำในเพลงจะสะกดคำว่า "LSD" จอห์นเลนนอน ซ้ำปฏิเสธอ้างว่า The Beatles 's 1967 ตี "ลูซี่ในท้องฟ้ากับเพชร" เป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด
แต่ทศวรรษต่อมา พอลแมคคาร์ทนีย์ เล่าเรื่องนี้ในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร เจียระไน ปี 2547 “ 'Lucy in the Sky' ชัดเจนมาก” เขากล่าว "มีคนอื่น ๆ ที่ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่คุณรู้ว่ามันง่ายที่จะประเมินค่าสูงไปถึงอิทธิพลของยาเสพติดในเพลงของ Beatles"
5 "Total Eclipse of the Heart" โดย Bonnie Tyler
นักแต่งเพลง จิมสไตน์แมน เปิดเผยว่าเพลงฮิต ของบอนนี่ไทเลอร์ใน ปี 1993 เพลง "Total Eclipse of the Heart" นั้นมีชื่อว่า "Vampires in Love"
"ถ้าใครฟังเนื้อเพลงพวกเขาชอบแนวแวมไพร์จริง ๆ มันเกี่ยวกับความมืดพลังแห่งความมืดและความรักในที่มืด" ผู้แต่งบอก Playbill ในปี 2002 ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณจะฟัง 1990 คลาสสิกลองนึกภาพว่ามันเป็นแวมไพร์รักสองตัว
6 "ความดี (เวลาแห่งชีวิตของคุณ)" โดย Green Day
Shutterstock
หากคุณเข้าร่วมพิธีสำเร็จการศึกษางานศพงานแต่งงานหรืองานเลี้ยงลาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีโอกาสสูงที่คุณจะได้ยิน "Good Riddance (เวลาแห่งชีวิตของคุณ)" โดย Green Day สองสามครั้ง เพลงปี 1997 ได้รับการตีความอย่างกว้างขวางว่าเกี่ยวกับการก้าวไปสู่บทต่อไปของชีวิต
แต่ในปี 2549 Billie Joe Armstrong นักร้องนำของวงสารภาพกับ Guitar World ว่าเพลงดังกล่าวถูกเขียนขึ้นจริง ๆ เมื่อเขารู้สึกโกรธอย่างไม่น่าเชื่อและไม่พอใจกับการเลิกกับแฟนเก่าที่ย้ายไปเอกวาดอร์ “ ในเพลงนี้ฉันพยายามที่จะมุ่งหน้าไปตามระดับของเธอถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำอะไรก็ตาม” อาร์มสตรองกล่าว "ดังนั้นฉันตั้งชื่อมันว่า 'Good Riddance' เพียงเพื่อแสดงความโกรธของฉัน"
7 "Poker Face" โดย Lady Gaga
เพลงฮิตในช่วงแรก ของเลดี้กาก้า มักจะสำรวจเรื่องเพศของเธอ บางครั้งก็มีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผยในเพลงเช่น "ฉันมีความสุขมากจนตายได้" ซึ่งเธอพูดถึงเรื่องการล้มเป็น "ลาเวนเดอร์สีบลอนด์" แต่ครั้งอื่น ๆ มันช่างบอบบางเหลือเกินที่คุณจะพลาดได้ และนั่นก็คือกรณีที่มี "Poker Face" ในปี 2008
กาก้าเปิดขึ้นเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของเพลงที่ White Party 20 ประจำปีในปาล์มสปริงส์, แคลิฟอร์เนียในปี 2009 ในขณะที่อยู่บนเวทีกาก้ากล่าวว่า "Poker Face" กำลังจะมีความสัมพันธ์กับผู้ชายในขณะที่จินตนาการเกี่ยวกับการอยู่กับผู้หญิง ตาม NBC
8 "ยากต่อการหายใจ" โดย Maroon 5
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่โด่งดังเพลงรักที่ร้อนแรงที่ปรากฎในอัลบั้มเปิดตัว ของ Maroon 5 ไม่ได้บอกรายละเอียดชีวิตรัก ของ Adam Levine นักร้องนำ ในความเป็นจริง "Harder to Breathe" ได้รับแรงบันดาลใจจากแรงกดดันจากค่ายเพลงของวงเมื่อมันมาถึงอัลบั้มของพวกเขา 2002 เพลงเกี่ยวกับเจน
“ เพลงนั้นมาจากความต้องการที่จะโยนบางสิ่งบางอย่างมันเป็นชั่วโมงที่ 11 และฉลากต้องการเพลงเพิ่มขึ้นมันเป็นรอยแตกครั้งสุดท้าย” เลวีนบอกกับ MTV ในปี 2545“ ฉันต้องการบันทึกและป้ายกำกับก็ใช้ กดดันมาก แต่ฉันดีใจที่พวกเขาทำ”
9 "ราชวงศ์" โดย Lorde
ดูเหมือนว่าซิงเกิ้ลแรกจาก Lorde จะเกี่ยวกับวิธีที่เธอจะไม่มีวันดำเนินชีวิตตามความร่ำรวยและชื่อเสียงของสถาบันกษัตริย์ แต่นักแต่งเพลงยอมรับในการให้สัมภาษณ์กับ VH1 ว่าเพลง "Royals" ของเธอปี 2013 ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปถ่ายของนักเบสบอล จอร์จเบตต์จอร์จเบร็ทที่ ถูกไล่ล่าลายเซ็นจากแฟน ๆ
“ ฉันนึกถึงการเขียนเพลงนั้นสักพักหนึ่งแล้วดึงสองสามบรรทัดมารวมกันที่นี่และฉันก็มีภาพนี้จาก National Geographic ของการลงนามเบสบอลคนนี้” นักร้องชาวนิวซีแลนด์อธิบายในปี 2013 เขาเป็นนักเบสบอลและเสื้อของเขาพูดกับ Royals ฉันชอบ 'ฉันชอบคำนั้นมาก' เพราะฉันเป็นนักไสยศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ฉันจะเลือกคำและจะยึดความคิดนั้น"
ปีต่อมาลอร์ดพบเบร็ทและพวกเขาก็ถ่ายรูปด้วยกัน ดังนั้นจึงปลอดภัยที่จะบอกว่าเธอเป็นกษัตริย์ในตอนนี้
10 "อีกต่อไปอีกหน่อย" โดย Jonas Brothers
ที่ความนิยมสูงสุดของพวกเขาในปี 2008 Jonas Brothers เปิดตัวเพลงที่ชื่อว่า "A Little Bit Longer" ซึ่งฟังดูเหมือนเพลงที่เลิกรา แต่ไม่นานหลังจากได้รับการปล่อยตัว Nick Jonas บอกกับทาง MTV ว่าเพลงนี้เกี่ยวกับการต่อสู้ของเขากับโรคเบาหวานประเภท 1
“ ฉันมีวันที่น้ำตาลของฉันอยู่นอกช่วงและฉันนั่งลงที่เปียโนและเขียนใน 20 นาทีและเป็นเพราะฉันมีแรงบันดาลใจที่แข็งแกร่งนี้” เขาบอกกับเอ็มทีวีหลังจากเพลงออกมาไม่นาน
เมื่อคุณทบทวนเนื้อเพลงบางเพลงในเพลงฮิต (เช่น "รอการรักษา / แต่ไม่มีใครแน่ใจ") ความหมายดูเหมือนจะชัดเจนในการเข้าใจถึงปัญหาหลังเหตุการณ์
12 "เพลงรัก" โดย Sara Bareilles
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่ได้รับความนิยมนักร้องนักแต่งเพลง Sara Bareilles ไม่ได้บอกกับแฟนหนุ่มที่มีชื่อเสียงที่จะขับไล่เธอออกไปจากเพลงรักเพลงในปี 2550 ในความเป็นจริงคล้ายกับกรณีของ "Harder to Breathe" ของ Maroon 5 "Bareilles เขียนเพลงนี้สำหรับค่ายเพลงของเธอซึ่งเรียกร้องให้เธอแต่งเพลงโรแมนติกที่เธอไม่ได้มี
"พวกเขาสนับสนุนให้ฉันเขียนต่อไปและฉันก็ไม่มีโชคและฉันก็เริ่มจุดเริ่มต้นของความคิดและตัวอย่างของช่วงเวลาของเพลงและฉันก็แค่ได้รับปฏิกิริยาblaséกับทุกอย่างจริง ๆ "เธอบอกกับ MTV ในปี 2008" มันซื่อตรงและฉันโชคดีมากที่ฉลากชอบมันเช่นกัน"
11 "เวลาปิด" โดย Semisonic
ภาพผ่าน Wikimedia Commons
เพลงนี้ดูเหมือนง่าย ๆ เกี่ยวกับการปิดบาร์หลังจากค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองอันยาวนานจริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในระหว่างการแสดงปี 2008 สองทศวรรษหลังจากเพลง Semisonic ออกมาเป็นครั้งแรก แดนวิลสัน นักร้องนำในที่สุดก็กล่าวว่า "เวลาปิด" ในความเป็นจริงเกี่ยวกับความเป็นพ่อของเขา เมื่อมองย้อนกลับไปบทเพลง "เวลาปิด / ห้องนี้จะไม่เปิดจนกว่าพี่น้องของคุณหรือน้องสาวของคุณจะมา" ต้องอ้างถึงครรภ์ของภรรยา
13 "Semi-Charmed Life" โดย Third Eye Blind
นี่คือเพลงฮิตอีกเพลงจากยุค 90 ที่มีข้อความที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในเนื้อเพลงระดับพื้นผิว
ไม่นานหลังจากที่ "Semi-Charmed Life" ได้รับการปล่อยตัวส เตฟานเจนกิ้นส์ คนที่สามที่ตาบอด ได้รับการอธิบายในการสัมภาษณ์ปี 1997 กับ บิลบอร์ด ว่ามันเป็น "เพลงสกปรกสกปรก" เกี่ยวกับอันตรายที่ติดไฟ “ มันตลกจริงๆที่ผู้คนเล่นทางวิทยุ” เจนกินส์กล่าว
“ ฉันคิดว่าผู้คนได้ยิน 'Semi-Charmed Life' เป็นแยมฤดูร้อนที่มีความสุขและนั่นก็ดีสำหรับฉัน” เจนกิ้นส์กล่าวเสริม "ฉันไม่คิดว่าเพลงควรจะดังเกินไปที่ฉันต้องออกมาและพูดว่า 'คู่รักที่ใช้ความเร็วมักจะเลิกกันดังนั้นอย่าทำอย่างนั้น'"
15 "ไม่รู้สึกว่าใบหน้าของฉัน" โดย The Weeknd
ในตอนแรกแฟน ๆ ของ The Weeknd หลายคนเชื่อว่าเพลงฮิตครั้งแรกของเขา "I Can't Feel My Face" เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกสบายที่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังใช้ความสามารถในการแต่งเพลงเพื่อพิสูจน์ตัวตนของยาเสพติดในอดีต
ในโปรไฟล์ New York Times , The Weeknd ได้เปิดเผยว่าในฐานะวัยรุ่นเขาจะ "ทำให้สูงขึ้นในทุกสิ่งรอบตัว - MDMA, Xanax, โคเคน, เห็ด, คีตามีน" ด้วยเนื้อเพลงหลายฉบับที่อธิบายว่า "เธอจะต้องตายของฉัน" ดูเหมือนว่า "ฉันไม่รู้สึกว่าหน้าตาของฉัน" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด
16 "Wolves" โดย Selena Gomez
เกือบทุกครั้งที่ เซเลนาโกเมซ ออกซิงเกิ้ลใหม่กองทัพแฟนคลับของเธอ (AKA Selenators) พร้อมที่จะถอดรหัสข้อความที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด ในกรณีของ "Wolves" ในปี 2017 พวกเขาคิดออกมาตั้งแต่ต้นว่าเพลงป๊อปที่มีจังหวะเต้นมีแนวโน้มมากที่สุดเกี่ยวกับการต่อสู้กับโรคลูปัสของโกเมซ ท้ายที่สุดแล้วคำภาษาละติน "lupus" แปลโดยตรงเป็น "หมาป่า"
แม้ว่านักร้องจะยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความหมายของเพลง แต่โกเมซบอกกับบีทส์ 1 ว่า "เพลงนั้นสวยงามและเป็นส่วนตัวมากและเนื้อเพลงก็มีเรื่องราวทั้งหมดของมันเองอย่างน่าประหลาดในเวลาเดียวกันฉันก็กำลังทำมันอยู่ ญี่ปุ่นฉันกำลังจะทำอะไรบางอย่างเหมือนกันดังนั้นมันจึงสะท้อนทุกอย่างออกมา"
16 "ฉันรู้สึกยัง" โดยโปรตุเกส ผู้ชาย
คุณอาจไม่รู้จักโปรตุเกส ผู้ชายตามชื่อ แต่โอกาสที่คุณจะได้ยินซิงเกิ้ล "Feel It Still" ที่จับใจได้ในปี 2560 ซึ่งทำให้วงแรกของพวกเขาได้รับรางวัลแกรมมี่ในปี 2018 ในเพลงป๊อปฮิตนักร้องนำและกีตาร์ John Gourley ร้องเพลง: "ถึงเวลาแล้ว ให้เด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงกลาง / แต่โอ้จนกว่ามันจะตกหลุม / จะไม่รบกวนฉัน "ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก
“ นี่เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ผู้เล่นซึมซับ” Gourley กล่าวกับ Genius "ด้วยการพูดคุยทั้งหมดในขณะนี้ในการสร้างกำแพงที่ชายแดนของเราและกำแพงเบอร์ลินมันก็เหมือนกับภาพที่คุณมีในหัวของคุณเติบโตขึ้นจนคนเหล่านี้แยกจากกันด้วยกำแพงและทำไมเราต้องการ ที่?"
17 "เหมือนสวรรค์" โดยรักษา
โรเบิร์ตสมิ ธ นักร้องนำ ของ The Cure เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการหมุนกวีนิพนธ์ที่ลึกลับจนกลายเป็นเพลงยอดฮิต ในกรณีดังกล่าวเพลง Just Like Heaven ในปี 1987 เป็นเพลงที่ดูเหมือนไร้เดียงสาเกี่ยวกับการตกหลุมรัก
อย่างไรก็ตามในขณะที่สมิ ธ ชี้ให้เห็นในการสัมภาษณ์ปี 2003 กับ Blender บรรทัดที่มีชื่อเสียง จริง ๆ แล้วเป็นแรงบันดาลใจจากตัวอย่างที่เขา hyperventilating และเริ่ม "จูบและเป็นลมกับพื้น" สมิ ธ บอก Blender : "เมื่อเพลงเดินไปข้างหน้าฉันแนะนำการเปลี่ยนแปลงคอร์ดที่แตกต่างกันซึ่งให้ความรู้สึกเศร้าเล็กน้อย"
18 "Chandelier" โดย Sia
ภาพผ่าน Wikimedia Commons
เมื่อ Sia ปล่อยเพลง "Chandelier" ของเธอในปี 2014 มันถูกตีความอย่างกว้างขวางว่าเป็นเพลงปาร์ตี้ แต่ศิลปินตั้งใจจะให้มันตรงกันข้าม จริง ๆ แล้วเธอเขียนเพลงเกี่ยวกับการต่อสู้ในอดีตของเธอกับการติดยาเสพติดและโรคพิษสุราเรื้อรังซึ่งเธอจัดการกับหลังจากที่แฟนของเธอถูกโจมตีอย่างร้ายแรงโดยแท็กซี่ในปี 1997 Sia หันไปหายาเสพติดและแอลกอฮอล์เพื่อรับมือ แต่ในที่สุดก็กลายเป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
“ นั่นเป็นเหตุผลที่ 'Chandelier' เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉัน” Sia บอก NPR ในปี 2014” ฉันเขียนเพลงเพราะมีเพลงชาติหญิงสาวจำนวนมากในเพลงป๊อปและฉันคิดว่ามันน่าสนใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ"
19 "สูงกว่า" โดยครีด
"Higher" ในปี 1999 นำออกอัลบั้มสตูดิโอที่สอง ของ Creed ดูเหมือนว่าจะเป็นเพลงร็อคที่เรียบง่ายของคริสเตียนเกี่ยวกับพลังที่สูงขึ้น
แต่ Scott Stapp นักร้องนำกล่าวว่าการโจมตีที่ช่วยให้ Creed บรรลุความสำเร็จในอุตุนิยมวิทยานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝันชัดเจน ในปี 2000 Stapp บอกกับนิตยสาร Spin ว่าเขามีฝันร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และเจาะลึกในการฝึกฝนของสุวิมลฝันที่จะกำจัดตัวเอง และนั่นคือสิ่งที่ "สูง" เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
20 "ฉันยิงนายอำเภอ" โดย Bob Marley
monosnaps / CC BY 2.0
บ็อบมาร์เลย์ ไอคอนเร้กเก้เชี่ยวชาญในการทอผ้าเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนในดนตรีของเขา ยกตัวอย่างเพลง 2516 "I Shot the Sheriff" ของเขา ตามที่คนรักของอดีต Marley รายละเอียดเพลงจริง ๆ เขาปรารถนาให้เธอไม่ใช้ยาคุมกำเนิดสิ่งที่เขาถูกกล่าวหาว่าเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ความหมายของเพลงถูกวางในภาพยนตร์เรื่อง 2011 Bob Bobley: การสร้างตำนาน ตาม Miami New Times อดีตของ Marley กล่าวว่า "นายอำเภอ" เป็นแพทย์ที่สั่งยาให้เธอ
เมื่อคุณตรวจสอบเนื้อเพลงอีกครั้ง (เช่น "ทุกครั้งที่ฉันปลูกเมล็ด / เขาบอกว่าฆ่ามันก่อนที่มันจะโต") ดูเหมือนว่าจะสมเหตุสมผล และถึงแม้ว่า Marley จะไม่เคยยืนยันความหมายของตัวเอง แต่เขาพูดในปี 1974 ว่า "นั่นไม่ใช่นายอำเภอจริง ๆ - เป็นองค์ประกอบของความชั่วร้าย" และสำหรับเนื้อหาเพลงที่เป็นสัญลักษณ์เพิ่มเติมลองดูการแสดงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 30 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปีของปี 2018
